TH
โชห่วยไทย
สนับสนุนให้คุณมีรายได้

เรายินดีให้คำปรึกษาและเปิดการสอนสำหรับเปิดบริการร้านโชห่วย

พาณิชย์ เดินหน้าประกันรายได้ข้าวปี 3 เตรียมชงครม.ไฟเขียว

“จุรินทร์”นั่งหัวโต๊ะ ถกอนุกรรมการนบข.ด้านการตลาด เคาะ ประกันรายได้ข้าวปี 3 พร้อมออก 3 มาตรการช่วยเสริม เตรียมเสนอ นบข.13 ส.ค.นี้ ก่อนชงครม.เห็นชอบต่อไป  โวโครงการประกันรายได้ปี  2 ประสบความสำเร็จช่วยเกษตรทั้งสิ้น 7.67 ล้านครัวเรือน


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเดินหน้านโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 3 ซึ่งการประกันรายได้ข้าวปีที่ 3 จะใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับการประกันรายได้ปีที่ผ่านมาทุกประการ


นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการคู่ขนานที่จะเข้ามาช่วยเสริมเกษตรเกษตรผู้ปลูกข้าว 3 มาตรการประกอบด้วย 1. สนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขาย ในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมากเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวราคาตกจนเกินไป โดยเกษตรกรที่ชะลอขายข้าวจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท 2. ช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์หรือสีโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวและไม่ปล่อยออกสู่ตลาด โดยชดเชยดอกเบี้ย 3% และ3. เร่งรัดส่งเสริมการส่งออกข้าว เพื่อระบายข้าวในประเทศเพราะฤดูการผลิตหน้าจะมีเข้าออกสู่ตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมาถึงประมาณ 5% จึงมีมาตรการช่วยเหลือให้มีการส่งออกข้าวโดยช่วยดอกเบี้ย  3% เป็นเวลา 6 เดือน ในเดือนต.ค.64-มี.ค.65




ทั้งนี้เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ข้าวสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 31 ต.ค. 64 โดยจะจ่ายจ่ายเงินส่วนต่างตั้งแต่เดือนต.ค.64 - 28 ก.พ. 65 ส่วนภาคใต้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 64 - 28 ก.พ.65  และจะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างตั้งแต่เดือนมี.ค.65 - พ.ค. 65

“วันที่ 23 ส.ค.นี้ผมจะนำมติของอนุกรรมการฯเพื่อขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป  “นายจุรินทร์ กล่าว

ส่วนผลการดำเนินการโครงการประกันรายได้ข้าวปี 2 มีการจ่ายเงินส่วนต่างสูงสุดสำหรับข้าว 5 ชนิด คือ ข้าวหอมมะลิจ่ายเงินชดเชยสูงสุด 42,830 บาทต่อครัวเรือน ข้าวหอมนอกพื้นที่ สูงสุด 41,680 บาทต่อครัวเรือน ข้าวเปลือกเจ้า สูงสุด 36,670 บาทต่อครัวเรือน ข้าวหอมปทุม 26,674 บาทต่อครัวเรือน ข้าวเปลือกเหนียว 33,350 บาทต่อครัวเรือน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับการส่งออกข้าวในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 6 ล้านตันผ่านมาครึ่งปีแล้วส่งออกได้เพียง 2.1 ล้านตันนั้น ตนได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ เร่งเจรจาระบบจีทูจีกับจีน ซึ่งยังมี MoU ค้างการซื้อข้าวอยู่ 280,000 ตัน ขอให้เร่งเจรจาให้ซื้อข้าวครบตามที่ได้ทำไว้โดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นไปได้ช่วงเวลานี้อยากขอให้จีนช่วยซื้อข้าวหอมมะลิเพิ่มเติมเพราะราคาข้าวหอมมะลิของเราสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยก่อนหน้านี้ที่เซ็นสัญญากับจีนไว้ 20,000 ตัน ได้มีการส่งมอบเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 2  ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ช่วงราคาผลผลิตต่ำกว่าราคาที่ประกันรายได้ โดยมีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 7.67 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.5 ล้านครัวเรือน ยางพารา 1.78 ล้านครัวเรือน มันสำปะหลัง 5.2 แสนครัวเรือน ปาล์มน้ำมัน 3.7 แสนครัวเรือน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.5 แสนครัวเรือน

สำหรับราคาประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 ยางแผ่นดิบกิโลกรัม (กก.) ละ 60 บาท ราคาน้ำยางสด กก.ละ 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท มันสำปะหลัง กก.ละ 2.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 8.50 บาท และปาล์มน้ำมัน กก.ละ 4 บาท  


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.bangkokbiznews.com/